ถ้าพูดถึงทุ่งดอกไม้ สาวๆหลายคนคงถูกใจแน่ เพราะสวนดอกไม้จะเป็นพื้นหลังให้กับภาพได้อย่างสวยงาม แถมในประเทศไทยเรายังมีทุ่งดอกไม้ให้สาวๆได้เลือกไปเที่ยวมากมายหลายแห่งเลยล่ะ วันนี้เราจึงได้รวบรวมเอา 10 ทุ่งดอกไม้ ในไทย ที่ห้ามพลาดมาฝากกัน
1. เดอะบลูม บาย ทีวีพูล จังหวัดนครราชสีมา

“เดอะบลูม บาย ทีวีพูล” สวนดอกไม้บนพื้นที่กว่า 100 ไร่ ยิ่งใกล้ช่วงหน้าหนาวแบบนี้ บรรยากาศและสีสันของดอกไม้ที่นี่ยิ่งสวยเป็นพิเศษ คุณจะได้เห็นสายหมอกที่กำลังเล้าโลมคลอเคลียดอกไม้ รายล้อมด้วยภูเขาที่ตั้งตระหง่านอยู่ตรงหน้า ที่นี่มีดอกไม้เมืองหนาวมากกว่า 30 สายพันธุ์ และยังมีพื้นที่เอาใจคนที่ชื่นชอบการถ่ายรูปโดยเฉพาะ ซึ่งประดับด้วยดอกกุหลาบหลากหลายสายพันธุ์ มีดอกบุนนาคที่คอยส่งกลิ่นหอม และรูปปั้นคิวปิด เรียกว่าได้ว่าเป็นพื้นที่สวรรค์ของช่างภาพเลยทีเดียว สถานที่แห่งนี้จึงถือเป็นสวนไม้ดอก ที่มีดอกไม้บานสะพรั่งมากที่สุด เบ่งบานรอการมาเยือนของนักท่องเที่ยวตลอดทั้งปี
2. สวนนงนุช จังหวัดชลบุรี
“สวนนงนุช” สวนไม้ดอกไม้ประดับขนาดใหญ่บนพื้นที่กว่า 1,500 ไร่ ภายในพื้นที่กว้างขวางแห่งนี้ประกอบด้วยสวนประเภทต่าง ๆ มากเกินกว่า 15 รูปแบบ เช่น “สวนเนินลายปีกผีเสื้อ” สวนไม้ระดับที่มีสีสันในตัวเอง, “สวนพุทธรักษา” ชมความงามของพุทธรักษาหลากสีสันครบทุกสี, “สวนบอนไซ” สวนที่รวบรวมพันธุ์บอนไซทั้งขนาดเล็กและใหญ่, “สวนไม้ตัดแต่ง” สวนไม้ประดับชนิดต่าง ๆ และ “สวนกล้วยไม้” ชมกล้วยไม้พันธุ์ต่าง ๆ หลากสีสันละลานตา เป็นต้น
ทั้งนี้นักท่องเที่ยวสามารถเดินเที่ยวชมความสวยงามของสวนต่าง ๆ ได้จากมุมสูงของ “ทางเดินลอยฟ้า” ตลอดระยะทางยาวกว่า 1,000 เมตร ทำให้เห็นสวนในมุมมองที่แปลกแตกต่างไปจากการเดินชมปกติ
3. สวนรุกชาติแม้ฟ้าหลวง จังหวัดเชียงราย

“สวนรุกขชาติแม่ฟ้าหลวง” ความพิเศษของที่นี่คือเป็นสถานที่รวบรวมพันธุ์ไม้ตระกูลกุหลาบพันปีไว้มากที่สุดในประเทศ มีทั้งกุหลาบพันปีของออสเตรเลีย จีน และพม่า นอกจากนี้ยังมีกล้วยไม้ป่า กล้วยไม้ดิน รองเท้านารี และพญาเสือโคร่ง มีลานชมวิวต่าง ๆ เช่น ลานรุ่งอรุณ ลานอัสดง จุดส่องสามแคว้น (ไทย-พม่า-ลาว)
ซึ่งถัดไปเล็กน้อยจะเห็นตำรวจตระเวนชายแดนตั้งค่ายดูแลความเรียบร้อยอยู่ และบริเวณลานน้ำพระราชหฤทัยสมเด็จย่า จะมีต้นกุหลาบพันปีสีแดงสด และต้นไม้ขนาดใหญ่อายุนับร้อยปี อยู่ภายใต้การดูแลของประชาชนชาวเขาในพื้นที่ ทั้งนี้ไม้ดอกและไม้ประดับที่นำมาตกแต่งทั่วบริเวณ ปลูกและเลี้ยงดูโดยชาวบ้านของโครงการ เป็นการสร้างงาน ให้ชาวบ้านมีรายได้ที่ดี สามารถเลี้ยงตัวเองและครอบครัว และยังเกิดเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่ สร้างงานในด้านอื่น ๆ เพิ่มขึ้นอีกด้วย
4. สวนหลวง ร. 9 กรุงเทพฯ
“สวนหลวง ร.9” สวนสาธารณะและสวนพฤกษศาสตร์ที่ใหญ่ที่สุดในกรุงเทพฯ เป็นสวนสาธารณะที่ได้รับการการกล่าวขานว่ามีดอกไม้สวยหลากหลายชนิด ประกอบด้วยไม้ยืนต้น ไม้ล้มลุก ไม้ยึดเกาะ ไม้พุ่ม ไม้ดอก ไม้ใบ ไม้คลุมดิน ไม้ป่า และไม้นำเข้าจากต่างประเทศ โดดเด่นด้วย “สวนนานาชาติ” ประกอบด้วย สวนจีน สวนญี่ปุ่น สวนฝรั่งเศส สวนสเปน สวนอังกฤษ และสวนอิตาลี
ซึ่งแต่ละสวนก็จะมีการประดับประดาตกแต่งที่แตกต่างกันไปตามเอกลักษณ์ของแต่ละชาติ อย่างเช่นที่สวนอังกฤษ ก็จะมีรูปปั้นเด็กตั้งอยู่กลางสวนกุหลาบ ส่วนที่สวนฝรั่งเศส ก็จะตัดแต่งต้นไม้ให้มีลักษณะเป็นรูปทรงต่าง ๆ เรียกว่าเดินกันจนลืมกลับบ้านเลยทีเดียว
5. สวนพฤกษศาสตร์สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ จังหวัดเชียงใหม่
“สวนพฤกษศาสตร์สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์” ตั้งอยู่บริเวณชายเขตอุทยานแห่งชาติดอยสุเทพ-ปุย บนพื้นที่ประมาณ 6,500 ไร่ เป็นสวนพฤกษศาสตร์ระดับนานาชาติ การจัดสวนของที่นี่จะแบ่งพันธุ์ไม้ตามวงศ์และความเหมาะสมของสภาพพื้นที่ โดยเฉพาะ “เรือนกล้วยไม้ไทย” รวบรวมพันธุ์กล้วยไม้กว่า 350 ชนิด ซึ่งเป็นกล้วยไม้ป่าที่มีสีสันสวยงาม
หลายชนิดมีกลิ่นหอม ส่วนใหญ่จะทยอยออกดอกตลอดปี โดยรวบรวมมาจากป่าดงดิบ ป่าเต็งรัง ซึ่งบางพันธุ์หาดูได้ยากและบางชนิดใกล้สูญพันธุ์ นอกจากนี้ยังมี “อาคารเรือนกระจก” ตั้งอยู่บนลานเนินเขาที่สวยงาม ภายในอาคารใหญ่รวบรวมพรรณไม้ใน เขตป่าดงดิบ จากทุกภูมิภาคของทวีปเอเชีย มาที่นี่คุณจะได้รับทั้งความเพลิดเพลินแถมยังได้ความรู้ติดตัวกลับบ้านอีกด้วย
6. สวนแปดสิบ-แปลงดอกไม้เมืองหนาว ดอยอ่างขาง จังหวัดเชียงใหม่

“สวนแปดสิบ-แปลงดอกไม้เมืองหนาว ดอยอ่างขาง” ถือเป็นไฮไลท์เด็ดของบรรดาสวนทั้งหมดสำหรับการเที่ยวชมดอยอ่างขาง ตั้งอยู่ใจกลางสถานีเกษตรดอยอ่างขาง เป็นแหล่งรวบรวมพันธุ์ไม้ดอกสวย ๆ ไว้ให้นักท่องเที่ยวได้เดินเที่ยวชม ซึ่งพรรณไม้แต่ละชนิดจะสับเปลี่ยนหมุนเวียนไปตลอดฤดูกาล แต่ของเด็ดที่พลาดไม่ได้เลยคือการชมต้นซากุระแท้ ๆ จากญี่ปุ่น ที่ปลูกไว้ให้นักท่องเที่ยวได้ชมความสวยงาม โดยเฉพาะอย่างยิ่งถ้าได้มาช่วงหน้าหนาว ซากุระจะยิ่งออกดอกสวยงามบานสะพรั่งเป็นสีชมพู นอกจากซากุระญี่ปุ่นแล้วยังมีซากุระเมืองไทยหรือพญาเสือโคร่งที่แข่งกันออกดอกเต็มสวนสวยงามอีกด้วย
7. เดอะบลูมส์ ออร์คิดปาร์ค จังหวัดราชบุรี
“เดอะบลูมส์ ออร์คิดปาร์ค” บนพื้นที่ประมาณ 100 ไร่ ภายในร่มรื่นไปด้วยสวนป่าและอุทยานกล้วยไม้หายาก ที่ออกดอกสวยงามตลอดทั้งปี ภายในสวนตกแต่งอย่างสวยงาม มีมุมให้นักท่องเที่ยวได้แวะถ่ายภาพกับดอกกล้วยไม้สวย ๆ บางมุมตกแต่งเป็นน้ำตกเล็ก ๆ เลียนแบบธรรมชาติ
เดินชมดอกไม้ไปได้ยินเสียงน้ำไหลไป ยิ่งชวนทำให้ผ่อนคลายมากยิ่งขึ้น ใครที่เป็นสาวกคนรักกล้วยไม้ จึงไม่ควรพลาดมาชมกล้วยไม้สวย ๆ ที่ “เดอะบลูมส์ ออร์คิด ปาร์ค” แถมยังเดินทางสะดวก เพราะไม่ไกลจากกรุงเทพฯ ได้มาชมกล้วยไม้สวย ๆ ที่หมุนเวียนสับเปลี่ยนตามฤดูกาลในบรรยากาศธรรมชาติ น่าจะถูกอกถูกใจคนรักกล้วยไม้อย่างแน่นอน
8. สวนผึ้งออร์คิด จังหวัดราชบุรี
“สวนผึ้งออร์คิด” เป็นสถานที่ที่คุณจะได้เข้าชมสวนดอกกล้วยไม้ในโรงปลูกแบบใกล้ชิด ละลานตาไปด้วยดอกกล้วยไม้หลายหลายสายพันธุ์ เช่น แวนด้า แอสโตแซนด้า แวนด้าฟ้ามุ่ย และอื่นๆ อีกมากมาย การันตีด้วยรางวัลมากมาย นักท่องเที่ยวสามารถเดินเที่ยวชมและเลือกซื้อกล้วยไม้กลับไปเป็นของฝาก ซึ่งมีหลากหลายราคา ตั้งแต่หลักร้อยไปถึงหลักพัน หรืออยากจะเอาไปปลูกตั้งแต่ยังเป็นต้นกล้าก็มีจำหน่าย เรียกได้ว่าครบวงจรสุด ๆ ก่อนกลับบ้าน ภายใน “สวนผึ้งออร์คิด” ยังมีบ่อปลาโดยมีแพทางเดินไปยังกลางบ่อ เพื่อให้นักท่องเที่ยวได้เพลิดเพลินกับการให้อาหารปลาอีกด้วย
9. ดาษดา แกลลอรี่ จังหวัดปราจีนบุรี
“ดาษดา แกลลอรี่” สวนดอกไม้บนพื้นที่กว่า 800 ไร่ ที่นี่คุณจะเพลิดเพลินไปกับความสวยงามของดอกไม้แบบครบวงจร สวนดอกไม้แห่งนี้กำเนิดขึ้นจากความรักของเจ้าของล้วน ๆ ด้วยความมุ่งมั่นและตั้งใจที่จะรวบรวมพัฒนาสายพันธุ์ดอกไม้ต่าง ๆ ให้กลายเป็นดอกไม้เศรษฐกิจที่ทรงคุณค่าในตลาดโลก บริเวณโดยรอบของ “ดาษดา แกลอรี่” ถูกจัดแต่งเป็นสวนสวยงาม
นอกจากนี้ยังพื้นที่จัดแสดงนิทรรศการศิลปะแห่งพันธุ์ไม้ดอกอาคารเรือนกระจก ที่ไม่ว่าจะมองไปทางไหนก็มีแต่ดอกไม้สบายตา ทั้งกล้วยไม้ หน้าวัว และคาร์เนชั่น ที่หมุนเวียนผลัดเปลี่ยนตามฤดูกาล หากใครเดินจนเมื่อยน่อง ที่นี่ยังมีร้านไอศกรีมดอกไม้หอมชื่นใจไว้นั่งพัก หรือจะเลือกซื้อดอกไม้สดหรือไม้กระถาง เอาไปฝากคนที่บ้าน ก็มีให้เลือกจุใจ “ดาษดา แกลลอรี่” จึงเป็นสวนสวรรค์ของผู้ที่ชื่นชอบความมหัศจรรย์ของศิลปะการจัดดอกไม้ในเรือนกระจกอย่างแท้จริง
10. อุทยานไม้ดอกแห่งอีสาน “เพ ลา เพลิน” จังหวัดบุรีรัมย์

อุทยานไม้ดอกแห่งอีสาน “เพ ลา เพลิน” โดดเด่นด้วยโรงเรือนที่จัดแสดงไม้ดอกทั้งหมด 7 หลัง โดยแต่ละหลังได้รับการออกแบบให้มีสไตล์ที่แตกต่างกัน ประกอบด้วยอาคารที่หนึ่งจัดแสดงไม้ดอกตามฤดู ซึ่งจะมีการหมุนเวียนสับเปลี่ยนดอกไม้ที่ผลิบานในแต่ฤดู, อาคารที่สองจัดแสดงเฟิร์นสายพันธุ์นานาชาติ
โดยจำลองเป็นป่าดึกดำบรรพ์, อาคารที่สามจัดแสดงพืชในตระกูลสับปะรดสี, อาคารที่สี่จัดแสดงกล้วยไม้, อาคารที่ห้าจัดแสดงพืชเขตร้อน เช่น ตะบองเพชรชนิดต่าง ๆ, อาคารที่หกจัดแสดงดอกหน้าวัว พร้อมจำลองวิถีชีวิตแบบอีสาน และอาคารที่เจ็ด “อาคารต้อนรับ” เป็นพื้นที่แสดงนิทรรศการ “ด้วยรักและภักดี” ซึ่งภายในแต่ละอาคารนักท่องเที่ยวสามารถแวะชมความสวยงาม และถ่ายรูปเป็นที่ระลึกได้อย่างจุใจ
และนี่ก็เป็นทั้ง 10 ทุ่งดอกไม้ ในไทย ที่ห้ามพลาดไปเยี่ยมชมกัน รับรองว่าไปเที่ยวามนี้ ได้รูปสวยๆมาอวดเพื่อนบนโลกโซเชียลแน่นอน
เกมสล็อตใหม่มาแรง JOKER MADNESS เกม สล็อต ใหม่ล่าสุด ที่ได้แรงบันดาลใจจาก ตัวร้าย ในการ์ตูนฮีโร่สุดคลาสสิค อย่าง โจ๊กเกอร์ กลายมาเป็นเกม slotxo JOKER MADNESS มีเกมคาสิโนไม่น้อยที่หยิบเอาคาเรกเตอร์สุดฮิตนี้มาใช้
อ่านบทความน่าสนใจเพิ่มเติม : สวนสัตว์น่าเที่ยว