ใกล้เข้าสู้เดือนตุลาคมแล้ว ซึ่งเป็นเดือนที่เรียกกันว่า ปลายฝนต้นหนาว ช่วงเปลี่ยนฤดูแบบนี้ เป็นช่วงที่ผู้คนนิยมออกไปท่องเที่ยวธรรมชาติกัน เนื่องจากอากาศช่วงนั้นจะไม่ร้อนไม่หนาวจนเกินไป แถมวิวทิวทัศน์ก็สวยงาม ท้องฟ้าสดใส วันนี้เราก็ได้รวบรวม ที่เที่ยว ธรรมชาติ สำหรับนักท่องเที่ยวที่อยากจะไปเที่ยวในช่วง ปลายฝนต้นหนาวที่กำลังมาถึงนี้

1. ไร่ชาลุงเดช จังหวัดเชียงใหม่
ตั้งอยู่ใกล้กับศูนย์พัฒนาโครงการหลวงม่อนเงาะ ตำบลเมืองก๋าย อำเภอแม่แตง บนพื้นที่ดอยสูงมีแปลงปลูกชาที่สวยงาม เรียงรายลดหลั่นกันลงมาตามไหล่เขา ซึ่งพื้นที่แห่งนี้มีชื่อเรียกว่า “ไร่ชาลุงเดช” นอกจากชาที่นี่จะมีคุณภาพดีแล้ว ยังมีทัศนียภาพที่สวยงามอีกด้วย เพราะตั้งอยู่บนเนินเขาที่โอบล้อมไปด้วยภูเขาสูงสลับซับซ้อน จึงทำให้มีอากาศเย็นสบายตลอดทั้งปี นักท่องเที่ยวจะได้เที่ยวชมไร่ชา พร้อมทั้งเรียนรู้วิธีการเก็บเกี่ยวชา ชิมชา และเลือกซื้อผลิตภัณฑ์ชาจากไร่ในราคาที่ถูกกว่าท้องตลาด อีกทั้งยังได้สัมผัสกับวิถีชีวิตของชาวเขาเผ่าม้ง และเที่ยวชมสวนส้ม สวนกล้วยไม้ แปลงปลูกกาแฟ และพืชผลเมืองหนาว และยังมีที่พักไว้บริการอีกด้วย
ที่อยู่ : ตำบลเมืองก๋าย อำเภอแม่แตง จังหวัดเชียงใหม่
เบอร์โทรศัพท์ : 081 163 3765
เฟซบุ๊ก : ไร่ชาลุงเดช

2. ไร่ชาฉุยฟง จังหวัดเชียงราย
บนเนื้อที่ตามเนินเขาของตำบลป่าซาง อำเภอแม่จัน มากกว่า 1,000 ไร่ เต็มไปด้วยไร่ชาคุณภาพแห่งไร่ชาฉุยฟง ด้วยความที่ไร่ชาแห่งนี้อยู่เหนือกว่าระดับน้ำทะเลมากถึง 1,200 เมตร พร้อมทั้งสภาพอากาศที่เอื้ออำนวยต่อการเจริญเติบโตของชา จึงทำให้ชาที่นี่มีรสชาติอร่อยกลมกล่อม มีความหอมเป็นเอกลักษณ์ การันตีคุณภาพจากรางวัลต่าง ๆ ตลอดมา และเมื่อไม่นานมานี้ทางไร่ชาฉุยฟงได้เปิดให้นักท่องเที่ยวทั่วไปเข้าชมทัศนียภาพของไร่ชา พร้อมทั้งเลือกซื้อสินค้าและผลิตภัณฑ์อื่น ๆ จากทางไร่ได้ในราคาย่อมเยา
ที่อยู่ : ตำบลแม่จัน อำเภอแม่จัน จังหวัดเชียงราย
เบอร์โทรศัพท์ : 053 771 563
เว็บไซต์ : www.chouifongtea.com
เฟซบุ๊ก : CHOUI FONG TEA

3. ภูลำดวน จังหวัดเลย
ตั้งอยู่ที่ตำบลปากชม อำเภอปากชม ใกล้กับหมวดการทางปากชม แขวงการทางที่ 1 เป็นยอดเขาสูงอยู่ริมแม่น้ำโขง สูงจากระดับน้ำทะเลประมาณ 368 เมตร สามารถมองเห็นวิวโดยรอบได้แบบพาโนรามา รวมทั้งยังสามารถมองเห็นวิวของแขวงเวียงจันทน์ ประเทศลาว ได้ด้วย ในช่วงปลายฝนต้นหนาวยาวไปจนถึงปลายฤดูหนาว บริเวณนี้จะสามารถมองเห็นทะเลหมอกเหนือลำน้ำโขงได้ไกลสุดลูกหูลูกตา โดยวิธีการเดินทาง จากบริเวณหมวดการทางปากชมขึ้นมายังภูลำดวนทำได้ 2 วิธี คือเดินและนั่งรถอีแต๊กของชาวบ้าน ถ้าเดินขึ้นไปด้านบน ระยะทางประมาณ 1.5 กิโลเมตร ส่วนนั่งรถอีแต๊กจะใช้เวลาประมาณ 10-15 นาที ค่าบริการไป-กลับ 50 บาท/1 ท่าน
ที่อยู่ : ตำบลปากชม อำเภอปากชม จังหวัดเลย
เบอร์โทรศัพท์ : ผู้ใหญ่สุนันท์ สารีพิมพ์ โทรศัพท์ 080 009 6637

4. ดอยอ่างขาง จังหวัดเชียงใหม่
ดินแดนที่โอบล้อมไปด้วยหุบเขาสีเขียวอุดมสมบูรณ์ เที่ยวชมแปลงปลูกดอกไม้ ผัก และผลไม้เมืองหนาว เดินเก็บสตรอว์เบอร์รีสด ๆ จากไร่แบบชิล ๆ ชมแปลงปลูกชาท่ามกลางสายหมอก สัมผัสวิถีชีวิตชาวเขาและอากาศที่หนาวจับใจ สวรรค์บนเขาสูงที่คุณก็สามารถเอื้อมถึง จุดท่องเที่ยวที่ห้ามพลาดในดอยอ่างขาง ที่เที่ยว เช่น จุดชมวิวม่อนสน, สวนบอนไซ, สวนบ๊วย สวนท้อ, จุดชมวิวขอบด้ง, ไร่ชาสองพัน, จุดชมวิวกิ่วลม, สวน 80 ปี, แปลงปลูกกุหลาบ และดอกไม้เมืองหนาว เป็นต้น
ที่อยู่ : ตั้งอยู่บนทิวเขาแดนลาว ตำบลแม่งอน อำเภอฝาง จังหวัดเชียงใหม่
เบอร์โทรศัพท์ : สถานีเกษตรหลวงอ่างขาง โทรศัพท์ 053 969 476-78 ต่อ 114 เว็บไซต์ : www.royalprojectangkhang.com

5. อุทยานธรณีสตูล จังหวัดสตูล
อุทยานธรณีสูตล ครอบคลุมทั้งหมด 4 อำเภอของจังหวัดสตูล คือ ทุ่งหว้า มะนัง ละงู และอำเภอเมือง มีความโดดเด่นอยู่ที่ลักษณะภูมิประเทศและธรรมชาติ มีลักษณะเป็นเทือกเขาหินปูน มีเกาะน้อยใหญ่ และชายหาดที่สวยงาม จึงทำให้อุทยานธรณีสตูลมีเส้นทางท่องเที่ยวที่น่าสนใจอยู่เพียบ ไม่ว่าจะเป็นเกาะหลีเป๊ะ, หมู่เกาะอาดัง, ปราสาทหินพันยอด, หมู่เกาะดง, ถ้ำเลสเตโกดอน, ล่องแก่งวังสายทอง, พิพิธภัณฑ์อุทยานธรณีสตูล, พิพิธภัณฑ์ช้างดึกดำบรรพ์ทุ่งหว้า รวมถึงยังมีแหล่งท่องเที่ยวเชิงวิถีชีวิต ที่นักท่องเที่ยวจะได้ร่วมสัมผัสและเรียนรู้วัฒนธรรมวิถีชีวิตชาวสตูล เช่น ชาวมานิ (เงาะป่า) ประเพณีลอยเรือ ประเพณีไหว้ผีโบ๋ และบ่อเจ็ดลูก เป็นต้น
นอกจากสถานที่ท่องเที่ยวเหล่านี้แล้ว อุทยานธรณีสตูลยังมีสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจอยู่อีกหลายแห่ง เช่น ถ้ำวังน้ำกล้วย, เขาน้อย, ถ้ำภูผาเพชร และอื่น ๆ อีกมากมาย
ที่อยู่ : ตำบลทุ่งหว้า อำเภอทุ่งหว้า จังหวัดสตูล
เบอร์โทรศัพท์ : อุทยานธรณีสตูล โทรศัพท์ 063 594 4929
เว็บไซต์ : www.satun-geopark.com
เฟซบุ๊ก : Satun Geopark

6. เขาไข่นุ้ย จังหวัดพังงา
ตั้งอยู่ในพื้นที่ตำบลทุ่งมะพร้าว อำเภอท้ายเหมือง นักท่องเที่ยวจะได้ชื่นชมทิวทัศน์หุบเขาน้อยใหญ่ในท้องทะเลอันดามัน รวมถึงทะเลหมอกสุดอลังการของภาคใต้ แม้แต่ฤดูร้อนก็มีปรากฏให้เห็น นักท่องเที่ยวสามารถขึ้นชมเขาไข่นุ้ยได้ตลอดทั้งปี สามารถขับรถขึ้นไปได้ แต่ต้องเป็นรถกระบะเท่านั้น และยิ่งถ้าไม่ชินทางไม่แนะนำให้ขับรถขึ้นไปเอง เพราะบางช่วงของเส้นทางจะชัน อาจเกิดอันตรายต่อนักท่องเที่ยวได้
ที่อยู่ : บ้านฝ่ายท่า ตำบลทุ่งมะพร้าว อำเภอท้ายเหมือง จังหวัดพังงา
เว็บไซต์ : www.thungmaphrao.go.th
เบอร์โทรศัพท์ : องค์การบริหารส่วนตำบลทุ่งมะพร้าว โทรศัพท์ 076 445 281, 081 187 6199

7. ภูทอก จังหวัดเลย
เป็นจุดชมวิวที่ขึ้นชื่อที่สุดของเชียงคาน มีจุดชมทะเลหมอกที่สวยงามไม่แพ้สถานที่ใด ๆ ในเมืองไทย อีกทั้งยังได้ชมวิวเขาสลับซับซ้อนที่มองได้ไกลสุดสายตา สามารถมองเห็นแก่งคุดคู้ ภูหมอน ผาแบ่น สายน้ำโขงที่ไหลแนบเชียงคาน ตลอดจนมองเห็นประเทศลาวได้อย่างชัดเจน ซึ่งเหมาะอย่างยิ่งสำหรับผู้ที่หลงใหลการถ่ายภาพในมุมกว้าง โดยจุดเด่นของทะเลหมอกที่นี่จะมีลักษณะเป็นกลุ่มก้อนปกคลุมอย่างหนาแน่นไปทั่วทั้งเมืองเชียงคาน และถึงแม้พระอาทิตย์จะขึ้นแล้วแต่ก็ไม่สามารถมองเห็นดวงอาทิตย์ได้ นอกจากนี้นักท่องเที่ยวยังสามารถสัมผัสและเดินลุยหมอกได้แบบใกล้ชิดมากกว่าที่อื่นอีกด้วย
ที่อยู่ : อำเภอเชียงคาน จังหวัดเลย

8. ภูห้วยอีสัน จังหวัดหนองคาย
แหล่งชมทะเลหมอกแห่งใหม่สุด Unseen ที่ไม่ควรพลาด ตั้งอยู่ที่ตำบลบ้านม่วง อำเภอสังคม โดยภูแห่งนี้เป็นเนินเขาเตี้ย ๆ ที่สามารถเดินขึ้นไปชมทะเลหมอกสุดอลังการได้แบบกว้างไกลสุดลูกหูลูกตา ใช้ระยะเวลาในการเดินทางจากตีนเขาไปถึงยอดเขาไม่ถึง 10 นาที ทะเลหมอกที่ปรากฏเป็นหมอกที่อยู่ตอนบนของแม่น้ำโขง คือฝั่งขวาจะเป็นฝั่งไทยและฝั่งซ้ายเป็นฝั่ง สปป.ลาว ทั้งนี้แนะนำให้มาชมทะเลหมอกในช่วงฤดูหนาวจะมีความสวยงามมากที่สุด โดยสามารถมาชมได้ตั้งแต่เวลา 05.30-09.00 น. อย่างไรก็ตามความหนาแน่นของหมอกขึ้นอยู่กับสภาพอากาศของแต่ละวันด้วย
ที่อยู่ : ตำบลบ้านม่วง อำเภอสังคม จังหวัดหนองคาย
เบอร์โทรศัพท์ : องค์การบริหารส่วนตำบลบ้านม่วง โทรศัพท์ 042 414 872

9. ดอยตีดู้ว์ จังหวัดน่าน
ดอยตีดู้ว์ เป็นยอดดอยสูงประมาณ 700 เมตรจากระดับน้ำทะล ตั้งอยู่บนเส้นทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 1091 (น่าน-พะเยา) ตำบลสะเนียน อำเภอเมือง เป็นจุดชมวิวที่สามารถชมทะเลหมอกได้แบบอันซีนสุด ๆ นอกจากการมาชมทะเลหมอกยามเช้าที่ดอยตีดู้ว์แล้ว ยามเย็นก็ยังชมพระอาทิตย์ตกดินได้อีกด้วย และยังมีตลาดชุมชนให้นักท่องเที่ยวได้เดินเลือกซื้อสินค้าผลิตภัณฑ์ทางการเกษตร สินค้าพื้นเมืองและอาหารพื้นเมือง มีร้านอาหาร ร้านกาแฟเล็ก ๆ ให้บริการ อีกทั้งยังมีกิจกรรมสนุก ๆ รออยู่ เช่น การโล้ชิงช้าม้ง การแต่งกายด้วยชุดพื้นเมืองชาวม้ง การชมแปลงสตรอว์เบอร์รี (เปิดให้เข้าชมช่วงที่ออกผลแล้ว) เป็นต้น
ที่อยู่ : ตำบลสะเนียน อำเภอเมือง จังหวัดน่าน
เฟซบุ๊ก : ดอยตีดู้ว์

10. แม่แจ่ม จังหวัดเชียงใหม่
อำเภอที่มีธรรมชาติและความเงียบสงบเป็นเสน่ห์ดึงดูดให้ใคร ๆ ต่างก็อยากเดินทางไปเยือน ถึงแม้ต้องผ่านโค้งแล้วโค้งเล่าก็ไม่ใช่อุปสรรค “แม่แจ่ม” ถูกโอบล้อมไปด้วยภูเขา อยู่ในอ้อมกอดของแม่น้ำอย่างอบอุ่น รอยยิ้มผู้คนเป็นมิตร สนิทกันเหมือนญาติ นี่คือเอกลักษณ์และคำนิยามความเป็นแม่แจ่มได้อย่างชัดเจน เพราะที่นี่ยังคงเงียบสงบ มีหมู่บ้านอยู่ตามที่ราบและกระจัดกระจายอยู่ตามหุบเขาใหญ่น้อยที่ล้อมรอบเรียงรายอยู่ ชาวบ้านมีวิถีชีวิตที่เรียบง่าย อีกทั้งยังมีสถาปัตยกรรมที่งดงามมากมาย แต่สิ่งหนึ่งที่เป็นเสมือนไฮไลต์ของที่นี่ก็คือนาข้าวขั้นบันไดกว้างไกลสุดสายตา อีกทั้งยังมีสถานที่ท่องเที่ยว เช่น น้ำออกฮู, วัดป่าแดด, วัดกองกาน, วัดกองแขก, สถานีทดลองเกษตรที่สูงแม่จอนหลวง, สวนป่าแม่แจ่ม และหมู่บ้านทอผ้าซิ่นตีนจก เป็นต้น
ที่อยู่ : อำเภอแม่แจ่ม จังหวัดเชียงใหม่
รีวิวเกมผี Song of Horror Song of Horror เป็นเกมสยองขวัญเอาชีวิตรอดโดยสตูดิโอ Protocol Games ของสเปน พวกเขาหาเงินทุนจาก Kickstarter ในปี 2015 แต่ล้มเหลว โดยไม่มีใครขัดขวางพวกเขาใช้เวลาสี่ปีในการทำงานกับเกมจนกระทั่งสองตอนแรกวางจำหน่ายบนพีซีผ่าน Steam ในวันที่ 31 ตุลาคม 2019
อ่านบทความน่าสนใจเพิ่มเติม : ที่เที่ยวติดเรท แดนซากุระ ในฝันของหนุ่มๆ ต้องลองไปสักครั้ง